น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ทำอะไรได้บ้าง .

น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ทำอะไรได้บ้าง

Share : facebook share twitter share messenger share

บทความ น้ำมันมะพร้าว

น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ทำอะไรได้บ้าง



หากพูดถึงคุณสมบัติของ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น นับว่าคุณประโยชน์เยอะมาก เนื่องจากถูกจัดว่าเป็นน้ำมันที่ดีต่อสุขภาพมากกว่าน้ำมันชนิดอื่น เพราะมีกรดไขมันอิ่มตัว ที่ร่างกายสามารถจะดึงไปใช้ในการเผาผลาญ จะมีอะไรบ้าง ทำอะไรได้บ้าง วันนี้ทีมงาน Mannature ได้รวมมาให้ในบทความนี้ ไปอ่านกันเลย
 

     และยังมีแร่ธาตุสำคัญและวิตามินละลายในไขมันบางชนิด เช่น แคลเซียม แมกนีเซียม เบต้าแคโรทีน วิตามินเอ ดี อี เค ซึ่งร่างกายสามารถดูดซึมไปได้ทันที รับรองได้เลยว่า น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น มีคุณค่าเหล่านี้ ซึ่งดีต่อสุขภาพในหลาย ๆ ด้าน เราไปเริ่มกันที่

 

สรรพคุณของ “น้ำมันมะพร้าว”

มาดูกันว่ามีประโยชน์กับสุขภาพด้านใดบ้าง

     ไม่อ้วน เนื่องจากในน้ำมันมะพร้าวให้พลังงานที่น้อยกว่าหากเทียบกับน้ำมันชนิดอื่นๆ อยู่ที่ 8.6 กิโลแคลอรีต่อกรัม ในขณะที่น้ำมันชนิดอื่นให้พลังงานถึง 9 กิโลแคลอรีต่อกรัม มีกรดไขมันอิ่มตัวที่ไม่ทำให้เกิดสารอนุมูลอิสระและไขมันทรานส์ น้ำมันมะพร้าวช่วยเพิ่มอัตราเมตาบอลิซึมนานถึง 24 ชั่วโมง ทำให้อาหารหรือปริมาณแคลอรีถูกนำไปเผาผลาญมากขึ้น ไม่เหลือเป็นแคลอรีส่วนเกิน ที่จะถูกสะสมเป็นไขมันส่วนเกิน

 

     ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ในน้ำมันมะพร้าวมีกรดไขมันอิ่มตัวสายปานกลาง ซึ่งในคุณสมบัตินั้นช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของลำไส้ใหญ่ กระตุ้นการขับถ่าย สำหรับคนที่กินน้ำมันมะพร้าวในระยะแรกอาจมีอาการท้องเสีย ถือว่าเป็นอาการปกติ แต่ถ้าหากกินไปสักระยะแล้วยังมีอาการท้องเสียอยู่ ควรหยุดทาน เพราะน้ำมันมะพร้าวอาจไม่เหมาะกับธาตุในร่างกาย

 

     บำรุงกำลัง น้ำมันมะพร้าวนั้นกินแล้วย่อยง่าย ที่สำคัญคือร่างกายดูดซึมไปใช้ในกระบวนการเผาผลาญได้ทันที เมื่อทานแล้วจะรู้สึกได้ว่าอิ่มนาน และแน่นอนจะมีส่วนช่วยให้ร่างกายมีกำลังเพิ่มขึ้นโดยธรรมชาติ และไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ ด้วยเหตุนี้ น้ำมันมะพร้าวจึงถูกนำไปบำรุงกำลังแก่นักกีฬาทั้งแบบชงดื่ม และแบบแท่ง รวมถึงเป็นอาหารเสริมสำหรับผู้สูงอายุด้วย

     ป้องกันและยับยั้งภาวะเสี่ยงในโรคเสื่อมต่างๆ แน่นอนว่า น้ำมันมะพร้าว จะช่วยยับยั้งไขมันเลว(LDL) และช่วยเพิ่มไขมันดี (HDL) จึงช่วยลดความเสี่ยงเป็นโรคกลุ่มเสื่อมต่าง ๆ เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคอ้วน โรคหัวใจ โรคตับ และโรคไต

 

     บำรุงกระดูก แร่ธาตุใน น้ำมันมะพร้าวนั้นอุดมไปด้วยแร่ธาตุที่จำเป็นต่อกระดูก เช่น  แคลเซียม และแมกนีเซียม ที่เข้ามามีส่วนช่วยเสริมสร้างมวลกระดูกให้แข็งแรง ไม่แตกหักง่าย

 

     ช่วยบำรุงครรภ์ในแม่ลูกอ่อน แน่นอนว่าแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ต้องได้รับ สารอาหารที่มากเพียงพอต่อร่างกาย และน้ำมันมะพร้าวถือว่าเป็นอาหารที่ดีต่อคุณแม่และทารกน้อยในครรภ์ คุณแม่รับประทานน้ำมันมะพร้าวในช่วงตั้งครรภ์ จะมีส่วนช่วยที่จะสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีให้กับทารก และเป็นการเพิ่มคุณค่าของน้ำนมแม่อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีแร่ธาตุแคลเซียมและแมกนีเซียม ที่จะช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง รวมทั้งป้องกันภาวะกระดูกพรุน หรือการสูญเสียแคลเซียมของคุณแม่ในช่วงตั้งครรภ์อีกด้วย

 

     ช่วยให้หลับสบายขึ้น น้ำมันมะพร้าว อุดมไปด้วยกรดลอริก กรดคาปริก และกรดคาปริลิก ซึ่งในกรดดังกล่าวคุณสมบัติก็คือช่วยให้ผ่อนคลาย ซึ่งหากรับประทานน้ำมันมะพร้าวติดต่อกันทุกวันในปริมาณที่พอดี ก็จะมีส่วนช่วยให้คุณนอนหลับได้สนิทขึ้น แถมยังช่วยบรรเทาอาการอ่อนเพลียเรื้อรัง ลดความเครียดได้อีกด้วย

 

     ลดการอักเสบและติดเชื้อ น้ำมันมะพร้าวสามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วยต่าง ๆ ที่เกิดจากการติดเชื้อได้ เพราะกรดลอริกในน้ำมันมะพร้าวจะถูกเปลี่ยนเป็น สารมอโนลอริน (monolaurin) มีคุณสมบัติสร้างภูมิคุ้มกัน และมีฤทธิ์ฆ่าแบคทีเรีย ถือเป็นเป็นทั้งยาปฏิชีวนะธรรมชาติที่ช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วยจ­ากการติดเชื้อต่าง ๆ เช่น เชื้อไข้หวัดใหญ่เริม คางทูม เจ็บคอ

 

     บำรุงสุขภาพในช่องปาก น้ำมันมะพร้าวมีคุณสมบัติลดการสะสมของแบคทีเรียในช่องปาก อันเป็นสาเหตุให้เกิดคราบพลัคที่จะนำไปสู่ปัญหาต่าง ๆ ภายในช่องปาก เช่น เหงือกอักเสบ เหงือกช้ำ บวม แดง หรือเลือดออกตามไรฟัน รวมถึงอาการติดเชื้อบริเวณลำคอด้วย วิธีใช้คือนำน้ำมันมะพร้าวมาอมบ้วนปากครั้งละ 1-2 ช้อนโต๊ะ วันละ 1 ครั้ง

 

     ช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง น้ำมันมะพร้าวมีกรดไขมันอิ่มตัวสูงถึงร้อยละ 92 ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย และยังมีวิตามินไบโอที่มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยลดความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็ง เช่น มะเร็งลำไส้ มะเร็งเต้านม มะเร็งตับ และมะเร็งผิวหนัง

 

วิธีใช้น้ำมันมะพร้าว

     วิธีใช้ในทีนี้อาจจะดูแปลก แต่จริง เพราะความพิเศษของ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น เราสามารถที่จะตวงใส่ช้อนแล้วทานได้ทันทีเลย หรือหากใครที่ไม่ไหวจริงๆกับการทานแบบแรก ก็สามารถที่จะนำมาปรุงอาหารไม่ว่าจะเมนูคาว-หวาน ก็สุดจะแล้วแต่ แม้ว่าน้ำมันมะพร้าวจะกินแล้วดีต่อสุขภาพ แต่ก็ยังต้องระวังเรื่องปริมาณการบริโภค รวมถึงต้องปรับพฤติกรรมการกินควบคู่ไปด้วย มิเช่นนั้น อาจให้ผลตรงกันข้าม

เรามาดูวิธีการใช้น้ำมันมะพร้าวที่เหมาะสม ดังต่อไปนี้

          - น้ำหนักตัว 30-40 กิโลกรัมขึ้นไป สามารถบริโภคได้ไม่เกิน 0.5 ช้อนโต๊ะต่อวัน

          - น้ำหนักตัว 40.1-60 กิโลกรัมขึ้นไป สามารถบริโภคได้ไม่เกิน 1 ช้อนโต๊ะต่อวัน

          - น้ำหนักตัว 60.1-80 กิโลกรัมขึ้นไป สามารถบริโภคได้ไม่เกิน 1.5-2 ช้อนโต๊ะต่อวัน

          - น้ำหนักตัว 80.1 กิโลกรัมขึ้นไป สามารถบริโภคได้ไม่เกิน 2.5-3 ช้อนโต๊ะต่อวัน

          - เด็กอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป ไม่เกินวันละ 1-2 ช้อนชา

          - ผู้สูงอายุรับประทานไม่เกินวันละ 1-2 ช้อนโต๊ะต่อมื้อ

 

     อย่างไรก็ดี ควรเลือกผลิตภัณฑ์น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน GMP จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข
 

     ด้วยความปรารถนาดีจาก น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ตราแมนเนเจอร์ (Organic Coconut Organic Oil By ManNature)


ขอขอบคุณข้อมูลจาก medthai


บทความที่น่าสนใจ

สรรพคุณน้ำมันมะพร้าว ที่คุณอาจไม่รู้ว่า มีประโยชน์ มากแค่ไหน

บอกลา สิว ง่ายๆ เพียงแค่ใช้ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ยังไง ก็เอาอยู่

น้ำมันปรุงอาหารที่ดีที่สุด

น้ำมันมะพร้าว สุดยอดน้ำมัน เพื่อการบำรุงผมสวย