ป้องกันผลข้างเคียงจากการทำเคมีบำบัดด้วย น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น .

ป้องกันผลข้างเคียงจากการทำเคมีบำบัดด้วย น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น

Share : facebook share twitter share messenger share

บทความ น้ำมันมะพร้าว

ป้องกันผลข้างเคียงจากการทำเคมีบำบัดด้วย น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น



หากพูดถึงคุณสมบัติของ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ( Coconut Oil Extra Virgin ) นับว่าคุณประโยชน์เยอะมาก เนื่องจากถูกจัดว่าเป็นน้ำมันที่ดีต่อสุขภาพมากกว่าน้ำมันชนิดอื่น เพราะมีกรดไขมันอิ่มตัว ที่ร่างกายสามารถจะดึงไปใช้ในการเผาผลาญได้เลย

 

     น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ( Coconut Oil Extra Virgin ) ยังมีแร่ธาตุสำคัญและวิตามินละลายในไขมันบางชนิด เช่น แคลเซียม แมกนีเซียม เบต้าแคโรทีน วิตามินเอ ดี อี เค ซึ่งร่างกายสามารถดูดซึมไปได้ทันที รับรองได้เลยว่า น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ( Coconut Oil Extra Virgin ) มีคุณค่าเหล่านี้ ซึ่งดีต่อสุขภาพในหลาย ๆ ด้าน

 

 

น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ( Coconut Oil Extra Virgin ) สามารถช่วยป้องกันผลข้างเคียงจากการทำเคมีบำบัดในผู้ป่วยมะเร็งเต้านม

     การรักษาโรคมะเร็งด้วยการทำเคมีบำบัดอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงต่าง ๆ ตามมา งานวิจัยที่ทดลองนำ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ( Coconut Oil Extra Virgin ) มาใช้ประโยชน์ในด้านนี้ ศึกษาโดยแบ่งครึ่งผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมในระยะที่ 3 และ 4 จำนวน 60 คน เป็นกลุ่มที่รับประทาน น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ( Coconut Oil Extra Virgin ) และกลุ่มควบคุม

 

     ผลลัพธ์ปรากฏว่า กลุ่มที่รับประทาน น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ( Coconut Oil Extra Virgin ) ระหว่างช่วงรับการทำเคมีบำบัด มีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และยังพบว่า น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ( Coconut Oil Extra Virgin ) มีส่วนช่วยลดอาการที่เป็นผลข้างเคียงจากการได้รับยาเคมีฆ่าเซลล์มะเร็ง เช่น อาการอ่อนเพลีย หอบเหนื่อย นอนไม่หลับ และไม่อยากอาหาร ทว่างานวิจัยนี้มีข้อจำกัดที่ใช้ผู้ป่วยเพียงจำนวนน้อย จึงยังจำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมในอนาคตเพื่อยืนยันคุณประโยชน์ด้านนี้ของ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ( Coconut Oil Extra Virgin ) ได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น

 

 

วิธีใช้ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ( Coconut Oil Extra Virgin )

     วิธีใช้ในทีนี้อาจจะดูแปลก แต่จริง เพราะความพิเศษของ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ( Coconut Oil Extra Virgin ) เราสามารถที่จะตวงใส่ช้อนแล้วทานได้ทันทีเลย หรือหากใครที่ไม่ไหวจริงๆ กับการทานแบบแรก ก็สามารถที่จะนำมาปรุงอาหารไม่ว่าจะเมนูคาว-หวาน

 

     แม้ว่า น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ( Coconut Oil Extra Virgin ) จะกินแล้วดีต่อสุขภาพ แต่ก็ยังต้องระวังเรื่องปริมาณการบริโภค รวมถึงต้องปรับพฤติกรรมการกินควบคู่ไปด้วย มิเช่นนั้น อาจให้ผลตรงกันข้าม วิธีการใช้ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ( Coconut Oil Extra Virgin )ที่เหมาะสม มีดังต่อไปนี้

- น้ำหนักตัว 30-40 กิโลกรัมขึ้นไป สามารถบริโภคได้ไม่เกิน 0.5 ช้อนโต๊ะต่อวัน

- น้ำหนักตัว 40.1-60 กิโลกรัมขึ้นไป สามารถบริโภคได้ไม่เกิน 1 ช้อนโต๊ะต่อวัน

- น้ำหนักตัว 60.1-80 กิโลกรัมขึ้นไป สามารถบริโภคได้ไม่เกิน 1.5-2 ช้อนโต๊ะต่อวัน

- น้ำหนักตัว 80.1 กิโลกรัมขึ้นไป สามารถบริโภคได้ไม่เกิน 2.5-3 ช้อนโต๊ะต่อวัน

- เด็กอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป ไม่เกินวันละ 1-2 ช้อนชา

- ผู้สูงอายุรับประทานไม่เกินวันละ 1-2 ช้อนโต๊ะต่อมื้อ

 

     อย่างไรก็ดี ควรเลือกผลิตภัณฑ์น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน GMP จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข

 

ด้วยความปรารถนาดีจาก น้ำมันมะพร้าวออร์แกนิคสกัดเย็น ตราแมนเนเจอร์ (Organic Coconut Oil Extra Virgin By ManNature)

 

อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม

น้ำมันมะพร้าวกับคุณประโยชน์หลากหลาย

รักษาสิวด้วยน้ำมันมะพร้าว

 


บทความที่น่าสนใจ

ดูแลผิวให้สวยด้วยน้ำมันมะพร้าว

น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ช่วย ลดปัญหาหนังศีรษะ และ เส้นผม

ผิวสวย หน้าใส ด้วย น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น

คุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระของน้ำมันมะพร้าว ออร์แกนิค สำหรับปรุงอาหาร